สถานที่นี้ก็คือ “ ปาลิโอ เขาใหญ่ ” PALIO KHAO YAI
ชื่ออาจจะออกเป็นฝรั่งหน่อย จริงๆแล้วก็เป็นการย่อส่วนเมืองเก่าของอิตาลีมาไว้ที่เมืองไทย ตึกสีเหลืองสีแดง
สูงไม่เกิน 2 ชั้นมีทางเดินซอกแซกไปตามอาคารที่ดูจะคลาสสิค
มีต้นไม้ดอกไม้ประดับไว้มากมาย ไม่ต่างกับหลงเข้ามาในย่านเมืองเก่าของยุโรป
ตึกสไตล์ยุโรปเก่าเราคงเห็นจากภาพถ่ายหรือภาพยนตร์ ที่บรรยากาศออกจะเรียบง่าย
แต่ได้อารมณ์สุนทรี สบายๆ หรือภาพที่ฝรั่งนั่งจิบกาแฟ
พร้อมทานขนมปังกันหน้าร้านๆเล็กๆ อ่านหนังสือพิมพ์ไป
นั่งดูผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างสบายอารมณ์ หรือบางครั้งก็มีผู้คนก็ขี่จักรยานคันเก่าผ่านไปมา เห็นภาพอย่างนั้นแล้วก็อยากไปนั่งอยู่ในที่แบบนั้นบ้าง
ยิ่งได้กาแฟอร่อยสักแก้วคงจะดีไม่น้อย
ปาลิโอเขาใหญ่ ได้จำลองบรรยากาศของเมืองยุโรปเก่าชนิดที่คนไทยมาเห็นแล้วก็ต้องทึ่ง
เดินไปตามซอกตึกต่างๆ ก็ดูเหมือนจะมีบรรยากาศที่ไม่ซ้ำกัน มีทางเดินวนไปวนมารอบตึกหลังเล็กๆที่มีอยู่หลายหลัง
และสามารถทะลุหากันได้หมด แต่ละจุดก็จะตกแต่งไม้ประดับ ทั้งไม้ดอก ไม้ใบ
และไม้เลื้อย แค่เห็นต้นไม้ก็ชื่นชอบแล้ว
ไม้ดอกไม้ประดับส่วนใหญ่เป็นไม้ไทยๆเช่นดอกเล็บมือนาง
พวงชมพู และชนิดอื่นที่ไม่รู้จักชื่อ เมื่อนำมาตกแต่งให้เข้ากันอย่างเหมาะสมกับสถานที่ และด้วยฝีมือการจัดภูมิทัศน์ระดับมืออาชีพแล้ว ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูมีคุณค่า ชนิดที่จะหาใครมาเปรียบค่อนข้างยาก
ปรากฏว่าคนออกแบบจัดสวนหรือจัดภูมิทัศน์ ไม่ไช่ฝรั่งอิตาลีหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
แต่เป็นคนไทยที่ชื่อ อำนาจ
คีตพรรณนา มีผลงานทางสถาปัตยกรรม และตกแต่งภายในมาแล้วมากมาย เช่น บ้านพักท่านทูตประจำ W.T.O ที่เจนีวา
สวิสเซอร์แลนด์ พระตำหนักสวนสุโขทัย บ้านสวนปาริจฉัตก์ แค่เห็นชื่อสถานที่ที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ก็ต้องบอกว่าขั้นมืออาชีพจริงๆ
หลายคนอาจสงสัยว่า ปาลิโอเขาใหญ่ มันคืออะไรกันแน่
คำตอบแบบง่ายๆก็คือ "
ลานคนเดิน ลานคนเมือง หรือถนนคนเดินแบบบ้านเรานี่แหละ ภาษาต่างประเทศก็อาจใช้คำว่า Walking Street and Shopping Center " เพียงแต่ว่าสถานที่นี้เป็นลานคนเดินแบบยุโรป
ในสถานที่เป็นตึกเก่าโบราณที่สูงเพียงแต่ 2-3 ชั้น
เท่านั้นเอง
ในอาคารเหล่านี้ก็คือร้านค้าต่างๆที่มีอยู่นับร้อยๆร้าน
เช่นร้านขายของที่ระลึก ร้านขายเสื้อผ้า
ขายรองเท้าและของจุกจิก ร้านกาแฟและไอศกรีม เบเกอรี่ ร้านเหล้า ร้านเบียร์ คอฟฟี่ซ็อป
ร้านอาหาร ร้านสุกี้ MK ธนาคาร ร้านหนังสือ ฯลฯ
ที่ขาดไม่ได้ก็คือโรงแรม PALIO INN เป็นโรงแรมเล็กๆเพียงแค่
2 ชั้น และมีเพียง 12 ห้อง เท่านั้น
ใครอยากมาซึมซับให้เต็มที่ก็คงต้องมานอนค้างกันที่นี่เลย จะได้เห็นบรรยากาศทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะตอนกลางคืนคงสวยมาก เพราะเห็นประดับโคมไฟแบบยุโรปโบราณอยู่รอบอาคาร มาเดินเล่นในช่วงเย็นๆหรือใกล้มืดอาจมีบรรยากาศที่โรแมนติกและชวนให้หลงใหล
โรงแรมปาลิโอ หรือ PALIO INN ดูจากตกแต่งเป็นห้องพักสไตล์ยุโรป ในห้องมีเฟอร์นิเจอร์แบบโบราณ จุ๋มจิ่มน่ารัก แตกต่างจากโรงแรมทั่วๆไปที่เคยไปพัก เห็นภาพแล้วเหมือนมาพักโฮมสเตย์ของยุโรปมากกว่า
ใครไม่เคยไปยุโรปแต่อยากได้กลิ่นอายแบบฝรั่งก็ต้องมาพักที่นี่ ราคาค่าที่พักราวๆ 2,500 บาท รวมอาหารเช้า ส่วนห้องดีลักซ์ราคา 3,600 บาท แต่ราคานี้สำหรับวันธรรมดา หากเป็นวันหยุดคงต้องพวกเพิ่มอีกประมาณร้อยละ 10
ปาลิโอเขาใหญ่หาไม่ยาก ตั้งอยู่ติดถนนธนรัชต์หรือทางขึ้นเขาใหญ่ หากมาจากปากช่องจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ เลยจากนี้ไปก็จะเป็นโรงแรมจุลดิศเขาใหญ่ หรือจากถนนมิตรภาพเข้ามาก็ประมาณ 17 กม. ราวครึ่งทางก่อนขึ้นเขาใหญ่
คงไม่ต้องแนะนำอะไรมากสำหรับสถานที่แห่งนี้ มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน ยิ่งใครเป็นแฟนกันก็จะเหมาะมาก พกกล้องมาด้วย ที่นี่มีมุมถ่ายภาพ มุมโรแมนติคมากมาย ถ่ายออกมาแล้วก็จะดูสวยไปหมด ทั้งนางแบบและสถานที่
ใครอยากมาซึมซับให้เต็มที่ก็คงต้องมานอนค้างกันที่นี่เลย จะได้เห็นบรรยากาศทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะตอนกลางคืนคงสวยมาก เพราะเห็นประดับโคมไฟแบบยุโรปโบราณอยู่รอบอาคาร มาเดินเล่นในช่วงเย็นๆหรือใกล้มืดอาจมีบรรยากาศที่โรแมนติกและชวนให้หลงใหล
โรงแรมปาลิโอ หรือ PALIO INN ดูจากตกแต่งเป็นห้องพักสไตล์ยุโรป ในห้องมีเฟอร์นิเจอร์แบบโบราณ จุ๋มจิ่มน่ารัก แตกต่างจากโรงแรมทั่วๆไปที่เคยไปพัก เห็นภาพแล้วเหมือนมาพักโฮมสเตย์ของยุโรปมากกว่า
ใครไม่เคยไปยุโรปแต่อยากได้กลิ่นอายแบบฝรั่งก็ต้องมาพักที่นี่ ราคาค่าที่พักราวๆ 2,500 บาท รวมอาหารเช้า ส่วนห้องดีลักซ์ราคา 3,600 บาท แต่ราคานี้สำหรับวันธรรมดา หากเป็นวันหยุดคงต้องพวกเพิ่มอีกประมาณร้อยละ 10
ปาลิโอเขาใหญ่หาไม่ยาก ตั้งอยู่ติดถนนธนรัชต์หรือทางขึ้นเขาใหญ่ หากมาจากปากช่องจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ เลยจากนี้ไปก็จะเป็นโรงแรมจุลดิศเขาใหญ่ หรือจากถนนมิตรภาพเข้ามาก็ประมาณ 17 กม. ราวครึ่งทางก่อนขึ้นเขาใหญ่
คงไม่ต้องแนะนำอะไรมากสำหรับสถานที่แห่งนี้ มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน ยิ่งใครเป็นแฟนกันก็จะเหมาะมาก พกกล้องมาด้วย ที่นี่มีมุมถ่ายภาพ มุมโรแมนติคมากมาย ถ่ายออกมาแล้วก็จะดูสวยไปหมด ทั้งนางแบบและสถานที่
หากจะถามว่าบรรยากาศแบบนี้ในเมืองไทยมีที่ไหนบ้าง
ก็คงตอบว่ายังไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
คิดจะไปเที่ยวเขาใหญ่ก็ควรเผื่อเวลาเที่ยวที่ปาลิโอสัก 2 ชั่วโมงน่าจะกำลังดี หากใครไม่ได้มาย่านนี้เป็นเวลานาน คงต้องบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก และสวยงามกว่าแต่ก่อน เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับวันหยุดได้ดีทีเดียว
ขอบคุณ: www.photoontour.com และที่อื่นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น